หากใครได้มาเยือนกรุงเทพมหานคร ลองหาเวลาแวะ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รับรองว่าต้องตื่นตาตื่นใจกับภาพของสถานที่แห่งประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของไทยที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ราชธานีเก่าแห่งนี้ร่ำรวยไปด้วยศิลปะที่ยังคงแสดงคุณค่าแก่อดีต ที่ยังสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของคนยุคก่อนที่ถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลัง
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์กลางราชธานีแห่งที่สองของสยามต่อจากอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งได้ถูกทำลายโดยกองทัพพม่าในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งอยุธยาก่อตั้งขึ้นเป็นราชอาณาจักร เมื่อปี ค.ศ. 1350 และรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 14 จนถึง ศตวรรษที่ 18 ตัวอุทยานตั้งอยู่บนพื้นที่มีลักษณะเป็นเกาะ ซึ่งขุดออกไปเพื่อเป็นทางโดยสารไปจนออกทะเลได้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ในช่วงรุ่งเรืองของการเป็นราชธานี อยุธยาถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าในระดับนานาชาติ และเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมั่งคั่งที่สุดในภูมิภาคสุวรรณภูมิ ซึ่งถนนหนทาง คลอง ทางเดินต่าง ๆ ถูกออกแบบไว้เป็นอย่างดี แม้ในขณะนั้นจะเป็นยุคโบราณก็ตาม รวมถึงมีการทำระบบประปาเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำสมัยมากในยุคนั้น
ในปี ค. ศ. 1767 กองทัพพม่าได้บุกกรุงศรีอยุธยาและเผาบริเวณเมืองทั้งหมด และบังคับให้พลเมืองศิโรราบ อยุธยาไม่ได้รับการฟื้นฟู เนื่องจากเสียหายไปมาก ซึ่งเราจะเห็นความเสียหายได้จากซากปรักหักพังที่คงเหลืออย่างทุกวันนี้ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จึงกลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมที่รุ่งเรืองในสมัยก่อน มีหลักฐานค้นพบถึงว่าสมัยอยุธยา ราชสำนักได้ส่งตัวแทนทูตไปยังทั่วโลก ที่เห็นชัด ๆ คือ ราชสำนักแวร์ซายล์ของฝรั่งเศส และ จักรวรรดิโมกุลแห่งเดลี ซึ่งกลิ่นอายของวัฒนธรรมจากต่างชาติก็ยังมีให้เห็นตามสิ่งก่อสร้างและโบราณวัตถุที่ขุดพบในบริเวณอุทยาน
รายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเข้าชม อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สามารถติดต่อเคาน์เตอร์กงเซียจของโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค ได้ทุกเวลา
Address: Ayutthaya, Phra Nakhon Si Ayutthaya